https://fms.co.th/

สาระน่ารู้

News & Promotion

CUSTOMER CENTER

TEL

โทร
02-8696061-9

FAX

แฟกซ์
02-869-6070

MAIL

อีเมล
fluid.fms@gmail.com

LINE

ไลน์.
@fluidmechanic

สาระน่ารู้

ชวนทำความรู้จักมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor) คืออะไร?

ชวนทำความรู้จักมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

ทำไมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงถึงสำคัญกับงานอุตสาหกรรม?


ถือเป็นต้นกำลังที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

จุดเด่นหลักๆของมอเตอร์ชนิดนี้คือสามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ระดับต่ำสุดไปจนสูงสุดโดยมักใช้กับระบบอุตสาหกรรม เช่น โรงงานทอผ้า, โรงงานถลุงโลหะ, โรงงานเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ทั้งนี้ก่อนจะไปทำการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าประเภทนี้ เราควรต้องรู้จักกับอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงหลักการทำงานให้ถูกหลักด้วยเพื่อจะได้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง 

ส่วนประกอบของ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

  1. เฟรมหรือโยค (Frame or Yoke) : เป็นโครงภายนอกเปรียบเสมือนทางเดินของแม่เหล็กจากขั้วเหนือไปขั้วใต้ ช่วยยึดส่วนประกอบอื่นๆ ให้แข็งแรง
  2. ขั้วแม่เหล็ก : จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือแกนขั้วแม่เหล็กกับขดลวดสนามแม่เหล็ก
  3. ตัวหมุน (Rotor) : จะทำให้เกิดกำลัง ลักษณะมีแกนวางอยู่ตรงลูกปืน ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ แกนเพลา, แกนเหล็กอเมเจอร์, คอมมิวเตเตอร์ และขดลวดอเมเจอร์
  4. แปรงถ่าน : ทำจากคาร์บอนทรงสี่เหลียมผืนผ้า ต้องสัมผัสกับซีคอมมิวเตเตอร์ตลอดเวลาเพื่อรับกระแสไฟฟ้าพร้อมส่งระหว่างขดลวดอเมเจอร์กับวงจรไฟฟ้าภายนอก

หลักการทำงานเบื้องต้นของ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

พอแรงดันไฟฟ้าเข้าไปยังมอเตอร์ ส่วนหนึ่งจะเข้าแปรงถ่านผ่านคอมมิวเตเตอร์ต่อเข้าไปยังขดลวดอเมเจอร์เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา ขณะที่กระแสไฟฟ้าอีกส่วนจะไหลไปยังขดลวดสนามแม่เหล็กเกิดเป็นขั้วเหนือ-ขั้วใต้ ทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก 2 สนาม โดยคุณสมบัติของแม่เหล็กทิศทางตรงข้ามจะหักล้างกัน ส่วนทิศทางเดียวกันเสริมแรงกันเกิดเป็นแรงบิดในตัวอเมเจอร์หมุนได้เรียกว่าตัวหมุนหรือ Rotor ด้วยแม่เหล็กทั้งสองที่เกิดปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้การหมุนดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อทำให้มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสตรง สามารถใช้งานได้นั่นเอง

เลือกมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างไร? ให้ตรงกับความต้องการ

เพื่อให้ได้ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ Automation ของคุณอย่างแท้จริง ต้องพิจารณา 4 ปัจจัยหลักที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

1. กำหนดแรงบิดและความเร็วที่ต้องการ

  • แรงบิด (Torque): คือแรงหมุนที่ต้องเอาชนะโหลดของระบบ เพื่อให้มั่นใจว่ามอเตอร์สามารถขับเคลื่อนอุปกรณ์ Automationได้แม้ในสภาวะโหลดสูงสุด
  • ความเร็วรอบ (Speed): ต้องระบุช่วงความเร็วรอบที่ต้องการควบคุมอย่างแม่นยำ เนื่องจาก DC Motor มีข้อได้เปรียบในการควบคุมความเร็วได้ง่าย

2. ตรวจสอบชนิดของ DC Motor

การเลือกชนิดมอเตอร์ส่งผลต่ออายุการใช้งานและการบำรุงรักษา
  • Brushed DC Motor: ราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับงานที่ไม่ซับซ้อน
  • Brushless DC Motor (BLDC): ให้ความแม่นยำและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เหมาะสำหรับงานAutomation ที่ต่อเนื่องและต้องการการควบคุมที่ละเอียด
ดูสินค้า Blushless DC Motor (BLDC) >> คลิก!

3. เลือกขนาดและแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสม

  • กำลังและขนาด: เลือกขนาดมอเตอร์ (HP/KW) ที่มีกำลังเหมาะสมและมีการเผื่อค่าความปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายจาก Overload
  • แรงดันไฟฟ้า: ต้องเลือกแรงดันไฟฟ้าที่สอดคล้องกับระบบไฟในโรงงาน ($24$V, $48$V, หรืออื่นๆ)

4. พิจารณาผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้

การเลือกร้านขายมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพสินค้าและการรับประกัน บริการหลังการขายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลด Downtime ของอุปกรณ์ Automation

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้า DC

การเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่การเลือกขนาด แต่เป็นการเลือกความแม่นยำและความทนทานในระยะยาว นี่คือข้อแนะนำจากเรา

ปัจจัยสำคัญที่ต้องสอบถามร้านขายมอเตอร์ไฟฟ้า

  • แรงบิดและกำลัง: ต้องคำนวณโหลดสูงสุดและแรงบิดเริ่มต้นที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ Automation ของคุณ
  • สภาพแวดล้อม: มอเตอร์จะติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ความชื้น หรืออุณหภูมิสูงหรือไม่? ต้องเลือกเกรดการป้องกัน (IP Rating) ที่เหมาะสม
  • ความเร็วในการควบคุม: DC Motor มีจุดเด่นในการควบคุมความเร็วได้ง่าย แต่ต้องมั่นใจว่าไดรฟ์ (Controller) ที่ใช้ร่วมกันมีประสิทธิภาพเพียงพอ
  • บริการหลังการขาย: สอบถามเรื่องการรับประกันและบริการซ่อมบำรุง เพราะความต่อเนื่องของสินค้าอุตสาหกรรมคือสิ่งสำคัญที่สุด

ไม่แน่ใจว่าจะเลือกมอเตอร์ไฟฟ้าประเภทไหนสำหรับอุปกรณ์ Automation ของคุณ? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญวันนี้

<a href=”https://www.freepik.com/free-photos-vectors/background”>Background image created by Freepik</a>